คนเราจะเป็นอย่างที่ตัวเองคิด
คนเราสื่อสารกับตัวเองตลอดเวลา
เทคนิคของการสื่อสารกับตัวเอง
พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ไม่พูดในสิ่งที่เราไม่อยากเป็น
เราเป็นอย่างที่เราคิด?
บางคนอาจบอกว่ามันไม่จริง...
บางคนอาจบอกว่ามันไม่เสมอไป...
บางคนอาจบอกว่าคิดอย่างหนึ่ง
กลับไปได้อีกอย่างหนึ่ง...
คนเราสื่อสารกับตัวเองตลอดเวลา
เทคนิคของการสื่อสารกับตัวเอง
พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ไม่พูดในสิ่งที่เราไม่อยากเป็น
เราเป็นอย่างที่เราคิด?
บางคนอาจบอกว่ามันไม่จริง...
บางคนอาจบอกว่ามันไม่เสมอไป...
บางคนอาจบอกว่าคิดอย่างหนึ่ง
กลับไปได้อีกอย่างหนึ่ง...
เรื่องเล่าของเพื่อนวัยเยาว์ที่
กลับมาพบหน้ากันใหม่ ตอนเรียน
ในชั้นประถม เธอเรียนไม่เก่งเลย
เธอเป็นคนที่ฉลาด มีไหวพริบ
ดีมาก แต่เธอเรียนไม่เก่ง...
เธอบอกว่า แม่เธอไม่ได้เรียน
มาสูง แต่ขยันขันแข็งในการทำ
มาหากิน แม่เธออยากให้เธอเรียน
สูงๆ
เมื่อครั้งประถมต้นเธอให้แม่
ตรวจทานการบ้าน เธอคิดเลข
ตรวจทานการบ้าน เธอคิดเลข
ผิดไปข้อเดียว แม่เธอมองหน้า
เธอแล้วพูดว่า
"ลูกไม่ได้โง่นะ ทำไมถึงทำการ
บ้านผิด" (ผิดไปตั้งข้อหนึ่ง)
ความนัยครั้งนั้นเป็นการตำหนิ
เธอจำได้แม่นยำถึงคำพูดของแม่ว่า
เธอไม่ใช่คนโง่
แต่เธอรู้ดี รู้อยู่เต็มอกว่าเธอทำการ
แต่เธอรู้ดี รู้อยู่เต็มอกว่าเธอทำการ
บ้านผิดไปตั้งหนึ่งข้อ เธอโง่ใช่หรือ
ไม่ตามที่แม่พูด
ย่างเข้าวัยมัธยม เพื่อนๆทุกคน
รู้ดีว่าเธอเธอเป็นนักเรียนที่เรียน
"บ๊วย" ที่สุดในชั้น เพื่อนบางคนช่วย
เธอเรื่องเรียน บางคนล้อเลียนเธอ
เรื่องความหัวทึบ
เธอมักจะบอกเพื่อนๆตลอดว่า
"กูไม่ได้โง่นะ" (แต่เธอก็ต่อท้ายใน
ใจทุกครั้งว่า กูทำการบ้านผิดไป
ตั้งข้อนึง)
วันนี้เจอเพื่อนคนนี้ เธอสวย เธอ
แจ่มใส ท่าทางมั่นใจ เธอเป็นเจ้าของ
โรงงานทำกระเป๋า ส่งออกนอก ราย
ได้ต่อปีมากโขอยู่
เธอเล่าว่า เธอไม่ได้เรียนต่อมหา
วิทยาลัย เพราะเธอเคยคิดว่าเธอโง่
การที่เธอเที่ยวประกาศว่าเธอไม่โง่
คือการยอมรับและให้ข้อสรุปกับ
ตัวเองไปแล้วว่า เธอนั้นโง่ เธอจึง
ไม่ยอมเรียนต่อ
เธอไปทำงานเป็นเสมียนในโรง
งาน ได้เงินเดือนน้อยนิดความรู้อัน
น้อยนิดของเธอ
เจ้าของโรงงานเป็นคนจีนมาจาก
เมืองจีน เขาชมเธอเสมอว่าเธอเก่ง
เกินกว่าที่ตัวเองคิด
จากเสมียนพิมพ์ดีดเธอเริ่มลง
บัญชี เธอไม่เคยทำพลาด
เขาส่งเธอไปอบรม สัมมนาบ่อย
ขึ้น เขาบอกเธอว่าเขาโชคดีที่ได้เธอ
มาช่วยงาน เธอเก่ง เธอซื่อสัตย์
และเธอเริ่มรู้ตัวว่า ความจริงแล้ว
เธอเก่ง เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า
เธอเป็นคนเก่ง เธอสมัครเรียนมหา
วิทยาลัยที่ไม่ต้องสอบเข้า เธอใช้เวลา
สามปีครึ่งเรียนจบ พร้อมๆกับทำงาน
ไปด้วย เธอลงเรียนต่อปริญญาโท
และปริญญาเอกในเวลาต่อมา
เมื่อสี่ปีที่แล้วเจ้าของโรงงานจะ
กลับไปอยู่กับลูกของเขาที่เมืองจีน
เขาบอกขายโรงงานให้เธอในราคา
กันเอง เธอเอาเงินที่เก็บรวบรวมไว้
เซ้งโรงงานนั้นมาเป็นของเธอ
ก่อนที่เราจะจากกันเธอบอกว่า
"คนเราเป็นอย่างที่ตัวเองคิด ฉันเคย
โง่เพราะเคยคิดว่าตัวเองโง่ ตอนนี้ฉัน
คิดว่าฉันทั้งฉลาดทั้งเก่ง ฉันเป็นเจ้า
ของโรงงานและจบด๊อคเตอร์
"คนเราเป็นอย่างที่ตัวเองคิด ฉันเคย
โง่เพราะเคยคิดว่าตัวเองโง่ ตอนนี้ฉัน
คิดว่าฉันทั้งฉลาดทั้งเก่ง ฉันเป็นเจ้า
ของโรงงานและจบด๊อคเตอร์
ทุกอย่างที่เราเป็น เรามี ในวันนี้
เพราะเราเรียกหามันเอง
จากความคิดของแกเองก็
เหมือนกัน คิดให้ตัวเองผอมเสียที
แทนที่จะคิดว่าแกจะต้องผอม
(ไปโฟคัสที่ความอ้วน=คิดในสิ่งที่
ไม่ต้องการ)
มันเหมือนกับฉันเมื่อก่อนไง ที่คิด
ว่า "ฉันไม่ได้โง่นะ"
(ไปโฟคัสที่ความโง่=คิดในสิ่งที่ไม่