วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตอนที่ 2 อ้วนหรือผอมอยู่ที่ตัวเรา :ความอ้วนกับปัญหาสุขภาพ

 ความอ้วนกับปัญหาสุขภาพ


      โดยตัวของมันเอง
 แล้ว "ความอ้วน" ก็นับ
 ได้ว่าเป็นโรคอย่างหนึ่ง  
  ตามที่กรมอนามัย

กระทรวงสาธารณสุขจัดระดับความเสี่ยง
ของการเป็นโรคอ้วน ว่าการมีน้ำหนักตัว
เกินเป็นเพียงท้วมๆก็เป็นสัญญาณอันตราย
ของโรคอ้วนระดับต้นๆแล้ว

     แต่ก็เป็นความจริงว่า เมื่อร่างกายเริ่ม
อ้วน ระบบการทำงานของร่างกายจะเริ่ม
ทำงานไม่ปกติจึงมักจะมีโรคที่มากับความ
อ้วนเกิดขึ้นได้มากมาย อาทิ เช่น ไขมัน
พอกตับ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคความ
ดันโลหิตสูง  โรคหัวใจโต  ซึ่งโรคพวกนี้มัก
จะจับมือเดินตามกันมาราวกับว่าพวกมันเป็น
เพื่อนที่สนิทสนมกับเรามานานก็ไม่ปาน

     ที่เป็นเช่นนี้ เพราะมันเป็นที่ระบบวงจร
การทำงานของร่างกาย คือเมื่อเราอ้วนเรา
ก็จะมีพวกไขมันที่ระบบการทำงานของ
ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดภาย
ในวันหนึ่งๆ ไขมันเหล่านี้ก็จะไปพอกทับเก็บ
สะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกายทำให้
เรือนร่างอวบหนาขึ้น อาจทำให้เกิดไขมัน
พอกตับได รวมถึงอาหารที่เรากินไป  บาง
อย่างทำให้เกิดเป็นไขมันสะสมในเส้นเลือด
ที่เรียกว่าคลอเรสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์

     ซึ่งหากเกิดมีไขมันสองชนิดนี้ขึ้นมาพร้อมๆ
กัน คุณหมอเคยบอกว่าหากไขมันสองชนิดนี้
จับมือร่วมกัน อยู่ในตัวเรา  ก็อาจทำให้เราเกิด
มีอาการของหัวใจวายเฉียบพลันได้

     แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น การอุดตันของไขมัน
ก็จะทำให้เลือด ของเราไปเลี้ยงสมองไม่พอจึง
ทำให้ร่างกายของเราต้องใช้ความพยายามอย่าง
หนัก ในการที่จะลำเลียงเลือดไปเลี้ยงสมอง
และส่วนต่างๆของร่างกาย

     เพื่อการนี้แล้วทำให้หัวใจต้องทำงานอย่าง
หนัก  ตามไปด้วยในการพยายามสูบฉีดโลหิต
ไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายให้ได้  ก็อาจจะ
ทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นจากการที่ต้อง
ใช้พลังในการลำเลียงเลือด อันเป็นสาเหตุหนึ่ง
ของโรค ความดันโลหิตสูง และหัวใจโตที่มักจะ
จับมือเดินคู่กันมา

     การรักษาของแพทย์ในปัจจุบันคือการให้
ยาขยายหลอดเลือดเพื่อให้ร่างกายพาเลือด
ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้สะดวก
ขึ้นเป็นการช่วยลดความดันของเราหรือให้กิน
ยาสำหรับลด ไขมัน ซึ่งยาพวกนี้ คุณหมอยัง
บอกเองว่า ยาลดความดันมีผลข้างเคียงต่อไต
และยาลดไขมัน มีผลข้างเคียงต่อตับ

     แต่เพื่อการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ใน
ระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การกินยาจึง
มีความสำคัญ ส่วนโรคแทรกซ้อนที่ตามมา ก็จะ
ต้องทำการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นต่อไป

     เช่นถ้าค่าไตเริ่มสูงขึ้น ก็จะแสดงถึงภาวะของ
ความเสื่อมที่ไต ก็ต้องเริ่มสแกนไตและวางแผน
รักษาต่อไป เช่นนี้แล้วจึงทำให้มีการตื่นตัวเรื่อง
การพยายามลดน้ำหนักกันอย่างกว้างขวาง คน
อ้วนที่แข็งแรงแทบจะไม่เคยมี

     จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี2557 ระบุว่า
โรคอ้วนถือเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยและเสียชีวิต
ก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
(Non-communicable Diseases : NCDs)
อาทิ เบาหวาน  ความดันโลหิตสูง โรคตับ 
โรคมะเร็ง   โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี โรคซึมเศร้า
ภาวะหายใจลำบาก และหยุดหายใจขณะหลับ
และโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นต้น

     โดยคนอ้วนมีโอกาสเป็นโรคเหล่านี้มากกว่า
คนปกติ 2-3 เท่า
( ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ )

     เช่นนี้แล้วผู้ที่น้ำหนักเกินหรือผู้ที่รู้ตัวว่า
น้ำหนักเริ่มจะเพิ่มขึ้น ควรคิดตัดสินใจได้หรือ
ยังว่า จะเริ่มลดน้ำหนัก ลดภาวะความเสี่ยงต่อ
โรคภัยต่างๆ ปฎิบัติตนตามคำในพุทธศาสน
สุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า  
"อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภ
อันประเสริฐ"
                 

ท่านคิดว่า อาหารเสริมจำเป็นต่อการลดน้ำหนักหรือไม่?

                                                                                                       

   
                                                                                                                          S.Th

🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹🐹                       



                 PipSS  
     
  Professional ip Super Service

       ทีมงานที่มีผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการ
       พิจารณารับจดทะเบียนเครื่องหมาย
การค้ามามากกว่า 20 ปี  บริการให้คำ
ปรึกษา รับตรวจสอบและจดทะเบียน

       เครื่องหมายการค้าครบวงจร   
สนใจติดต่อ  📞 085-369 7956 , 095-979 9241 
 🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒🐒                                


        ความอ้วนไม่ใช่กรรมพันธ์ ไม่ต้องอยู่ด้วยกันกับเราตลอดไป
เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ช่วยท่านที่กำลังต้องการ
ลดน้ำหนักตัว นอกเหนือจากการควบคุมตัวเองกับปริมาณของ
แคลอรี่ที่รับเข้าสู่ร่างกายให้พอดีกับอัตราการเผาผลาญ และการ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
FLO      FERLOZA       IDIA  ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ที่สามารถ
ช่วยให้ท่านลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว  ปลอดภัย  และไม่กลับไปอ้วนอีกใช้เพื่อช่วยเหลือระหว่างการลดน้ำหนักตัว หรือควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น
สนใจติดต่อเรา  โทร  095 -9799241









วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตอนที่1 อ้วนหรือผอมอยู่ที่ตัวเรา : ควรลดความอ้วนหรือไม่

       ควรลดความอ้วนหรือไม่

     โลกเราในปัจจุบันนี้เปิด
ช่องทางให้ผู้คนได้รับความ
เป็นอยู่ที่สะดวกสบาย  การ
กินอยู่ของคนเราเปลี่ยนไปมาก
เราแทบไม่ต้องเสียเวลามานั่ง
ปรุงอาหารในเวลาที่เราหิว

     ถ้าเราไม่อยากจะทำอาหาร  การกินอาหาร
แต่ละมื้อ  เราก็แทบจะเนรมิตมันขึ้นมาได้ด้วย
การกดปุ่ม หรือถึงจะไม่มีปุ่มให้กด แต่ในทุกๆ
แห่งก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามาคอยนำเสนออาหาร
ที่หน้าตาน่ากินส่งกลิ่นหอมหวลชวนน้ำลายไหล
และเรียกร้องให้เราเดินเข้าไปซื้อหามากินเพราะ
อดใจไม่ได้  

     ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เใอมองผู้คน
รอบข้างก็จะพบคนที่เริ่มมีปัญหากับขนาดของ
ลำตัวที่กำลังจะขยายใหญ่ขึ้น หรือเริ่มเห็นส่วน
ที่ยื่นเกินจากร่างกายออกมาจนทำให้รูปร่าง
ไม่น่ามอง

     เพราะเหตุว่าสรีระของผู้หญิงเป็นสิ่งที่น่า
จับตามองอยู่แล้ว  ดังนั้นเมื่อพบเห็นส่วนเกิน
ที่ทำให้ร่างกายดูเผละด้วยก้อนไขมัน   เจ้า
ของรูปร่างก็จะต้องทำทุกวิถีทางที่จะเอา
ส่วนเกินนั้นออกไปให้ได้  หรือถึงแม้กับสุภาพ
บุรุษเองก็เช่นกัน  หากปล่อยรูปร่างให้อวบ
สมบูรณ์จนเกินไป แม้ว่าจะมีสาวๆไม่น้อยที่ชื่น
ชอบหนุ่มร่างอวบ  แต่ความอ้วนนั้นเป็นบ่อเกิด
แห่งโรคภัยไม่น้อย

     ความอ้วนนั้นแม้เพียงน้ำหนักตัวมากเกินไป
จากน้ำหนักที่พึงจะต้องมี ก็เรียกว่าเป็นโรคอ้วน
แล้วบางสูตรจะกำหนดว่า น้ำหนักตัวที่เกินมานั้น
ทำให้เจ้าของเป็นโรคอ้วนในระดับใด เพื่อให้
เจ้าของเรือนร่างเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะต้อง
พยายามลดหุ่นให้เฟิร์มเหมือนเดิมให้ได้น้ำหนัก
ตัวเท่าใดจึงจะเรียกว่าอ้วนหรือเรียกว่ามีน้ำหนัก
ตัวที่เหมาะสม มีวิธีคิดคำนวณอย่างง่ายๆคือ

     นำส่วนสูงมาลบด้วย 105 สำหรับสุภาพบุรุษ
หรือลบด้วย 110  สำหรับสุภาพสตรี

     ก็จะทราบน้ำหนักตัวที่เหมาะสมที่พึงจะมี
เช่น

     ผู้หญิงสูง 160 ซม. ลบด้วย 110 เหลือ 50
แสดงว่าน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัมเป็นน้ำหนักตัวที่
เหมาะสมกับผู้หญิงที่สูง 160 ซม.

     นอกจากนี้ยังมีสูตรง่ายๆสำหรับการ
คิดคำนวณค่าบีเอ็มไอ (BMI) หรือที่
เรียกว่าค่าดัชนีมวลกาย (BMI =Body
Mass Index)

     โดยคิดได้จากน้ำหนักตัว หารด้วย
ความสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง ตัวอย่างเช่น

     น้ำหนักตัว 50 สูง 160 ซม.
(160 ซม. เท่ากับ 1.6 เมตร) ดัชนีมวลกาย
จะเท่ากับ 50 หารด้วย1.6 กำลังสอง หรือ 50
หารด้วย1.6  คูณ 1.6  ตามตัวอย่างนี้ คิดค่า
ดัชนีมวลกายหรือ BMI ได้เท่ากับ 19.53

     ลองมาวัดค่าดัชนีมวลกายของเราดูกันก่อน
ว่าน้ำหนักของเรา ณ. เวลานี้ เราอยู่ในภาวะใด
หากคิดแล้วจะทราบว่า ดัชนีมวลกายควรอยู่
ในช่วงใด และเราควรจัดการกับตัวเองอย่างไร
จากนั้นค่อยมาตัดสินใจกันว่าเราควรจะเริ่มลด
น้ำหนักตัวของเราลงบ้าง  หรือจะยังคงพอใจกับ
น้ำหนักตัวที่มีอยู่และยังคงมีความสุขกับการใช้
ชีวิตแบบเดิมของตนต่อไป

          ความหมายของการหาค่าดัชนีมวลกาย


  (ที่มาของข้อมูล :กองออกกำลังกายเพื่สุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข)               
               

อาหารเสริม จำเป็นในการลดอ้วนหรือไม่?
   
                                     
                                       

 



🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘

PipSS  Professional Ip Super Service
บริการให้คำปรึกษา รับตรวจสอบและจดทะเบียน
เครื่องหมายการค้า