วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
วันนี้คุณพูดกับตัวเองอย่างไร?
เขาเป็นคนเงียบๆ เขาเป็นคนช่างพูด พูดตลอดเวลาจนน้ำไหลไฟดับ คนสองคนนี้แตกต่างกันอย่างมากใช่หรือไม่?
บุคลิกภายนอกของคนทั้งคู่อาจมีความแตกต่างกัน ในด้านของการแสดงออกว่าเป็นคนเงียบๆหรือเป็นคนช่างพูด
แต่สิ่งที่เป็นจริงอยู่ภายในร่างกายของเขาทั้งคู่เหมือนกัน นั่นคือ เขาเป็นคนช่างพูด ศาสตร์ของ
NLP (Neuro Linguistic Programming) กล่าวว่า คนเราพูดกับตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการพูดด้วยเสียงและการพูดด้วยภาพ และมันน่าแปลกใจที่สุดว่าคนเรามักจะพูดกับตัวเองอย่างตำหนิติเตียนมากกว่าจะพูดชมเชยตัวเอง
หลายคนมีไอดอลประจำตัว ให้ชื่นชมความเก่งกล้า แต่เขากลับไม่เคยเห็นความเก่งกล้าของตนเอง ไม่เคยชื่นชมตนเองเลย
อย่างเช่นคนที่อกหัก คนอกหักจะมีพฤติกรรมที่เหมือนๆกันอย่างหนึ่งคือ "การตำหนิตนเอง"
เขาอาจจะด่าคนที่หักอกเขาแต่ผลสุดท้ายมักจะลงเอยด้วยการประนามตัวเอง่ที่ไม่สามารถรั้งคน
ที่เขา"คิดว่ารัก" ให้อยู่กับเขาได้
อกหักไม่ทำให้ตาย แต่คนอาจตายเพราะคิดว่าตัว อกหัก "อกหัก" ตามความหมายของราชบัณฑิตยสถานให้คำนิยามว่า อกหัก คือ พลาดหวัง (มักใช้ในด้านความรัก)
อาการอกหักก็คือ อาการที่คนๆหนึ่งพลาดหวังในด้านความรัก อาการนี้ไม่มีรูปแบบตายตัวว่า
ต้องเป็นอย่างไร
มันเป็นจินตนาการล้วนๆของผู้คิดว่าตนเองอกหักและคิดจินตนาการว่าเขาจะต้องมีอาการเป็นอย่างไร
อาการภายนอกที่คนพลาดรักแสดงออกมาอาจจะแตกต่างกันตามความเข้าใจของแต่ละบุคคล เช่นบางคนอาจจะฟูมฟายน้ำตา บางคนอาจจะกินเหล้าดับทุกข์ หรือบางคนอาจจะแสดงพฤติกรรม
ที่ตรงข้ามกับความรู้สึก เช่น ฮาเฮจนเกินเหตุ
แต่อาการสำคัญที่่คนที่อกหักพลาดรักจะต้องมีเหมือนกันหมดทุกคน เป็นอาการที่เกิดขึ้นภาย
ในตัวของพวกเขาเอง ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะรู้สึกตัวเองหรือไม่ก็ตาม
นั่นคือ"การตำหนิตัวเอง" เช่น เรา"ไม่ดี" ตรงไหนเค้าถึงไม่รัก
เรา"ไม่สวย/ไม่หล่อ" ถูกใจเค้าหรือไง "เรามันแย่" เค้าเลยไปมีใหม่
สรุปคือ เราคนเดียว "ที่แย่ ที่ผิด ที่ไม่เอาไหน ที่ไม่ดีพอ ที่ยากจนเกินไป
...เราเลวร้ายที่สุดจึงทำให้คนไม่รัก ทำให้คนไม่สนใจ ทำให้เค้าทิ้งเราไป เรามันแย่....
อาการสำคัญนี้จะเกิดภายในตัวเขาคนนั้นแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
มันทำให้เขาแสดงออกถึงการฟูมฟาย การตัดพ้อ การเศร้าสร้อย และถ้า เขายังคงไม่เบื่อที่จะพูดเสียดแทงใจตัวเขาเอง
เขาก็อาจตายได้จากการที่คิดว่าการพลาดรักของเขาเกิดจากความ "แย่" ของเขาเอง
คนเรามักจะพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับคนอื่น เรียกกันว่า Self talk แต่ก็น่าแปลกใจไม่น้อยที่ สิ่งที่เราบอกกับตัวเองแทบทุกวันส่วนใหญ่มักจะเป็นการตำหนิตัวเอง เหตุใดในขณะที่เราชื่นชมยกย่องคนอื่น เรากลับกดขี่ ข่มเหงด้วยการดุว่าตัวเองทุกวัน
ศาสตร์ในยุคใหม่บางแขนง จึงได้มีการแนะนำให้มีการคิดเชิงบวก เพื่อจะได้พูดกับตนเองใน
สิ่งที่ดีๆ เพื่อโปรแกรมสมองและจิต (NLP) เนื่องจากว่าตัวตนของคนเราจะรับฟังในสิ่งที่ตนเอง
พูดมากกว่าจะฟังคนอื่นพูดเสียอีก
ดังนั้นการพูดกับตัวเองในสิ่งที่ดี พูดย้ำซ้ำๆบ่อยๆ ตัวตนของคนเราก็จะเชื่อฟังและนำพาตัวเขา
คนนั้นเองไปสู่สิ่งที่ดีสำหรับเขาได้ แต่ก็เป็นธรรมดาที่สุดเหมือนกันว่า ขณะที่คนเราพยายามพูดกับ
ตนเองในสิ่งที่ดีๆ ก็จะมีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งในสมองของเขาคอยพูดไปพร้อมๆกันด้วย
หากเขาบอกกับตัวเองว่า ฉันแข็งแรง อาจจะมีอีกเสียงหนึ่งที่แทรกขึ้นมาว่า แกจะแข็งแรงไปได้
ยังไงในเมื่อแกขาเป๋ แกมันเป็นไอ้เป๋ อีกสิบชาติแกก็ไม่แข็งแรง แกมันแย่....(ตำหนิตัวเองมากกว่าชื่นชม?) แล้วเขาก็จะฟังเสียงนี้
เขาจะเชื่อ...และเชื่อว่าเขาเป็นคนขาเป๋ที่อ่อนแอ น่าเวทนาสงสาร และเขาก็จะปฎิบัติตนเป็นคนที่อ่อนแอไร้ความสามารถไปจริงๆ เช่นเดียวกับอาการพลาดรักของหลายๆคน เขาจะซมซาน เจ็บปวดกับความผิดหวัง ด้วยการพูดย้ำกับตัวเองตลอดเวลา ถึงความไร้ค่าของตนเอง และอีกมากมาย ที่ทำให้เขาไม่อยากมีตัวตนในโลกใบนี้ต่อไปแล้ว เพราะเขาช่างไร้ค่า ใครๆก็ไม่รัก เขาจะดูถูกตัวเอง เหยียบย่ำตัวเอง เป็นเดือน เป็นปี ช่างเป็นชีวิตที่น่าเห็นใจอย่างยิ่งจริงๆ
คนที่พลาดรัก ผิดหวัง มักจะตัดสินใจว่าตนเองเป็นคนไม่มีคุณค่า และจะตอกย้ำความไร้ค่าให้กับตัวเองอย่างโหดร้าย หากเขามีสติพอที่จะถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วมองเข้าไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วบอกตัวเองว่า จบเป็นจบ เดี๋ยวเราก็จะได้พบคนที่ใช่ของเราจริงๆ คนที่เรารักเขาจริงๆที่ไม่ใช่คนนี้ สิ่งที่ผ่านไปแล้วมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นทุนที่จะได้ใช้ในภายหน้า เขาก็จะมีอาการค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ
การจะฟื้นคืนสภาพจากการอกหักรักคุด กลับไปเป็นคนเดิมที่สดใส จะใช้เวลานานเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะมี Self talk กับตัวเองอย่างไร บางคนอาจจะพอใจที่จะตอกย้ำทำร้ายตัวเองซ้ำๆซากๆคนผู้นั้นก็จะคืนสภาพได้ช้ามาก อาจจะใช้เวลานานนับปีหรือหลายปี ซึ่งจะทำให้เขามีชีวิตที่ไม่มีชีวา อยู่อย่างปราศจากความสุขไปอย่างน่าเสียดาย
แต่ถ้าคนผู้นั้นเบื่อที่จะทำร้ายตัวเอง แล้วหันมาพูดกับตัวเองด้วยข้อมูลอย่างอื่นบ้าง ชื่นชมตัวเองให้มากขึ้น เลิกฟังเสียงเล็กๆที่คอยค้านในเวลาที่เขาพูดดีๆกับตัวเอง เวลาที่เขาชื่นชมตัวเอง แทนการพูดตำหนิตัวเอง เขาก็จะเป็นผู้มีจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นได้
มีคำพูดว่า ช่วงชีวิตหนึ่งของคนๆหนึ่งมันสั้นนัก เขาจะผจญ
กับความทุกข์ในใจได้นานเพียงใด และเหตุใดคนๆนั้นจึงต้อง
ทำร้ายตัวเองด้วยการตำหนิ ว่ากล่าวตัวเองตลอดเวลา
ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานตามธรรมชาติของมนุษย์นี้ เรื่องที่ดี
มีความสุขควรเป็นสิ่งที่ทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องพึงมีและพึงเป็น
พูดคุยกับตนเองด้วยคำพูดที่สร้างความ สดชื่นแจ่มใส เพื่อเพิ่ม
พลังชีวิตให้สดใส
รักตัวเองให้มากๆ จะดีกว่า ชื่นชมความเป็นตัวตนเพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่จะยืดหยัดกับคนผู้นั้นตลอดเวลาทุกลมหายใจของการมีชีวิต ตัวตนที่เป็นหนึ่งเดียวไม่เหมือนกับใครในโลกใบนี้ คนเราต้องให้ความรักและสร้างความนับถือตัวเองให้มาก
แล้วเขาคนนั้นจะไม่มีวันรู้สึกพลาดหวังในความรัก เพราะเขามีมันมากมายอยู่แล้ว เขาจะไม่โหยหาความรักจากคนอื่นจนต้องผิดหวังเมื่อไม่ได้รับความรักจากใคร แล้วเขาจะพูดได้อย่างสบายใจว่า "อกหัก..ก็ ไม่ยักกะตาย"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น