ตัวอย่าง เรื่องเล่าระหว่างพ่อกับลูกสาว
พ่อ : ลูกรัก ปีนี้หนูก็อายุจะสามสิบแล้ว หนูควร
จะหาคนแต่งงานด้วยได้แล้วนะ
ลูก : หนูกำลังรอคนที่ใช่อยู่ค่ะพ่อ
พ่อ: พ่อว่าหนูหาคนที่หนูรักดีกว่าไม๊ลูก คนที่ใช่น่ะ
มันไม่มีในโลกนี้หรอกนะลูกรัก
ลูก : ถ้าหนูเจอคนที่ใช่หนูก็จะรักแน่ค่ะพ่อ
🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺🐺
เธอหรือเขาจะทุ่มเทจิตใจให้กับคนๆนั้น รู้สึกว่าตัวเอง
รักคนๆนั้นอย่างสุดหัวใจและเขาคนนั้นเป็นคนที่ใช่
สำหรับตนเอง
แต่เมื่อมาพบในภายหลังว่าเขาคนนั้นไม่ได้เป็น
อย่างที่ตนเองคิด หรือเขาคนนั้นเดินหนีออกไปจาก
ชีวิต ละครฉากเศร้าก็จะเริ่มขึ้น
และบางทีอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะจบลง
พร้อมด้วยข้อกังขาที่ร้องเป็นเพลงได้ว่า "ทำไมถึง
ทำกับฉันได้..."
(เพลงดังเพลงหนึ่งที่บันทึกเสียง ร้องโดยดาวใจ ไพจิตร
เมื่อ พ.ศ. 2518 ประพันธ์คำร้องโดยครูจงรัก จันทร์คณา
ดัดแปลงมาจากทำนองเพลงจีน )
มีผู้กล่าวไว้ในเรื่องของความรักว่า "ความรักจะงอก
งามได้ไม่ต้องอาศัยความสมบูรณ์แบบ ความรักไม่ได้
เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของอีกฝ่าย มันเป็นแค่ เรา....
เท่านั้นที่รัก แค่เพียงรัก"
(หนังสือ being in love OSHO)
ถ้าเช่นนั้นมันหมายถึงรักอีกฝ่ายหนึ่งเพียงข้างเดียว
เท่านั้นก็พอ ใช่หรือไม่?
มันออกจะเป็นการขัดกันไม่น้อยถ้าจะตอบว่าใช่
เพราะขนาดการทำสัญญาตามกฎหมายแล้ว ยังต้องมี
ฝ่ายเสนอและฝ่ายสนอง เมื่อเสนอและสนองถูกต้อง
ตรงกันก็เกิดสัญญาขึ้น "เป๊ะ"
แต่นั่นเป็นแค่การเสนอและสนองเท่านั้น มันตั้งอยู่บน
ผลประโยชน์ที่ วินวิน ของทั้ง สองฝ่าย มันคนละเรื่องกัน
กับความรัก
เพราะความรักที่แท้จริง กลับเป็นเพียงขอแค่ตัวเรา
เท่านั้นที่ี่เป็นฝ่าย "รัก" ไม่ได้มีความเกี่ยวกับอีกฝ่ายหนึ่ง
แต่อย่างใด
การที่คนเราจะรู้สึกรักใครสักคน เขาจะรู้สึกว่าคนๆนั้น
เป็นคนที่ใช่ ใช่ในเรื่องการแต่งกาย ใช่ในเรื่องความสุภาพ
อ่อนโยน ใช่ในเรื่องความหล่อความสวย และแม้แต่ ใช่ ใน
เรื่องกลิ่นกาย(ซึ่งแม้คนอื่นจะคิดว่ากลิ่นตัวแบบนี้เหม็น แต่
สำหรับเขา กลิ่นนี้คนๆนั้นมันโอเคมาก...)
คนผู้ซึ่งตกอยู่ในห้วงอารมณ์ที่คิดว่าเขารัก จะเริ่มวาด
ภาพคนที่เขาพึงพอใจออกมา และปักใจเชื่อว่า นั่นคือคนๆ
นั้นที่ใช่
เขาจะสร้างภาพมายาขึ้นมาในใจว่าคนๆนั้นเป็นสุดหล่อ
สุดสวยของเขา เป็นคนที่ใช่ และเอาชื่อของคนๆนั้นใส่เข้า
ไปในภาพมายาของคนๆนั้นที่ตนเองจะวาดไว้อย่างสวยงาม
พร้อมกับการบรรจุความ "สมบูรณ์แบบ" ตามที่เขาต้องการ
ลงไปในภาพมายานั้น
สร้างตัวตนปลอมๆของคนๆนั้นที่แสนจะถูกใจ น่ารัก
ออกมา และเชื่ออย่างสนิทใจว่าคนๆนั้นเป็นคนที่เขารัก
และคนๆนั้นก็รักเขาเช่นกัน
ไม่ว่าคนๆนั้นจะทำอะไร มันจะกลายเป็นสิ่งที่ถูกใจเขา
ที่สุด ที่ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้จะเป็นได้ คนๆนั้นเป็นหนึ่ง
เดียวในใจของเขา
เมื่อคนๆนั้นเดินออกไปจากชีวิตของเขา หรือทำในสิ่งที่
เขาไม่ได้คิดวาดฝันไว้ นั่นจึงทำให้เขารู้สึกว่าเขาอกหัก
อย่างยับเยิน
ภาพมายาที่เขาสร้างไว้เริ่มกลับกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่
เคยวาดภาพให้กับคนๆนั้น ความน่ารักนักหนาของคนๆนั้น
กลับเปลี่ยนแปลงไป สิ่งนี้ทำให้ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด
ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้หลายๆคนคิดว่า มันคือความ
เจ็บปวดที่ผิดหวังจากความรัก
แต่ความจริงแล้ว ควรกล่าวได้ว่ามันเป็นความสงสาร
ตัวเองมากกว่า สงสารตัวเองว่าคนในฝันของตนบัดนี้กำลัง
จะจากไปแล้ว สงสารตัวเองที่บัดนี้คนผู้ซึ่งเราคิดว่าเขาเลอ
เลิศที่สุด(ซึ่งเราอุปโหลกเอาเองว่าเขาหรือเธอเป็นเช่นนั้น)
ได้ก้าวออกจากชีวิตเราไปแล้ว สงสารตัวเองเมื่อนึกถึงเวลา
เคยอยู่ด้วยกัน สงสารตัวเองที่จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่คนผู้นั้น
เคยยิ้มให้ และสงสารตัวเองที่จะไม่ได้สัมผัสตัวของคนผู้
นั้นอีก คนที่สมบูรณ์พร้อมของเขาจากไปแล้ว
พวกเขากำลังอาลัยอาวรณ์กับภาพมายาในใจที่พวกเขา
สร้างมันขึ้นมาต่างหาก! นั่นเป็นความสมบูรณ์แบบที่เขาสร้าง
ขึ้นมาเองในใจ โดยที่อีกฝ่ายไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย ไม่เคย
เป็นมาตั่งแต่ต้น แต่เขากลับชื่นชมหลงใหลในสิ่งที่อีกฝ่าย
ไม่เคยเป็น เขามองเห็นแต่สิ่งที่ต้องการจะเห็น สิ่งที่ต้องการ
จะให้อีกฝ่ายเป็น ทั้งที่มันไม่ใช่
เขามองความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีจริง ความสมบูรณ์แบบ
ที่ตนเองอุปโหลกมันขึ้นมาว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็น ความจริงแล้ว
เขาไม่เคยมีความสมบูรณ์แบบเช่นนั้น
คนทุกคนมักจะถามหาความสมบูรณ์แบบจากคนที่เขา
คิดว่าเขาเริ่มสนใจ ในเรื่องนี้ผู้รู้กล่าวไว้ว่า "เราไม่ต้องถาม
หาความสมบูรณ์แบบจากคนที่เราจะรัก เพราะเราจะหามัน
ไม่พบ และเราก็จะไม่ต้องมานั่งสงสารตัวเองถ้าต้องเสียคนๆ
นั้นไป เพราะเราจะรักแบบไม่สร้างเงื่อนไข เราเพียงแค่รัก
เขาเท่านั้น ซึ่งหากเขาไม่รักเราก็ไม่เป็นไร และถ้าหากเขามี
ใจรักตอบเราเช่นกัน นั่นก็คือ "ความโชคดี" ของเรา"
(หนังสือ being in love OSHO)
เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า "คนที่เขาคิดว่า"เป็น"
ไม่ได้ "เป็น" อย่างที่เขาคิด"
เขาเป็นผู้สร้างภาพนั้นขึ้นมาจากสิ่งที่เขาอยากให้อีกฝ่าย
หนึ่ง"เป็น"ต่างหาก คนที่เขารักคือคนที่เขาสร้างขึ้นมาครอบ
ตัวจริงของอีกฝ่ายหนึ่งไว้เท่านั้น เขาไม่ได้รักในตัวตนจริงๆ
ของอีกฝ่ายหนึ่งเลย
ดังนั้น หากจะรักใครสักคน ควรรักเพราะรัก รักแบบไม่มี
เงื่อนไข รักอย่างที่อีกฝ่ายหนึ่งเป็น "รัก" โดยไม่เรียกร้อง
ที่จะให้อีกฝ่ายหนึ่งปรับเปลี่ยนตัวเองมาเป็นแบบที่ตนชอบ
เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งรักตอบเช่นกัน เมื่อนั้นเขาก็จะเป็นอีกผู้หนึ่ง
ที่โชคดีได้กลายเป็นคนที่ถูกรัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น