แจ่มใสมีความสุข หัวเราะร่าเริง เมื่อพูดถึง
ลูกชายวัยเริ่มหนุ่มเพื่อนคนหนึ่งก็หยุด
หัวเราะหน้าตาเอาจริงเอาจังขึ้นมา
เพื่อน 1 : เพื่อนรักของลูกชายเรา เขาต้อง
ติดตามพ่อแม่ไปต่างประเทศ เราเป็นห่วงจัง
เพื่อน 2 : เค้าไปกับพ่อแม่เค้าเธอจะห่วงไป
ทำไม
เพื่อน 1 : ไม่ใช่ เราเป็นห่วงลูกเรา
เพื่อน 2 : เอ๊า เป็นงั้นไป ห่วงอะไร ห่วงทำไม
เพื่อน 1 : ห่วงว่าลูกเรามันจะอยู่ไม่ได้ เนี่ยมัน
นั่งซึม เลิกซึมก็เอาแต่เล่นเกม
เพื่อน 2 : มันยังเล่นเกมได้ ก็ไม่น่าเป็นห่วง
หรอกถ้ามันคิดถึงเพื่อนจนกินไม่ได้นอนไม่
หลับสิค่อยน่าเป็นห่วงหน่อย ว่าไม๊
เพื่อน 1: มันไม่ใช่อย่างนั่นสิเรากลัวว่ามันจะ
อยู่คนเดียวในโลกนี้ไม่ได้ ถ้าเรากับแฟนตาย
ไปเราพยายามนั่งพร่ำบอกลูกมาหลายวันแล้ว
เรื่องที่เค้าต้องอยู่คนเดียวให้ได้ เราคุยกับลูก
ทุกวันแหละว่าพ่อกับแม่ต้องตาย แล้วลูกต้อง
อยู่คนเดียวในโลกนี้ให้ได้นะ เรากลัวลูกอยู่
ไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้จักโตเลย
เพื่อน 2 : กลัวเกินเหตุไปไม๊? "ตอนนี้" ยังไม่ได้
ตายจากกันนี่ กลัวลูกจะอยู่คนเดียวไม่ได้ เธอก็
ต้องสอนเขาให้รู้ว่า เขาจะใช้ชีวิตลำพังได้ยังไง
ฝึกให้เขาหุงข้าวทำกับข้าว ฝึกให้เขาซื้อของกิน
ให้เป็น หรือฝึกให้เขามีเหตุผลในการใช้จ่ายเงิน
สอนให้เขารู้จักคบคนออกไปมีปฎิสัมพันธ์กับ
คนอื่นบ้าง แทนที่จะก้มหน้าก้มตาเล่นแต่เกม
ให้เขารู้ว่าการอยู่คนเดียวมันต้องทำยังไง สอน
เขาดีกว่าว่าคนที่โตๆแล้วควรทำยังไง ดีกว่าไม๊?
แทนที่จะมานั่ง คิดเองว่าลูกไม่รู้จักโต แล้วมานั่ง
พร่ำบอก ขู่ลูกว่าตัวเองจะตาย อยากให้ลูกรู้สึก
ยังไงเหรอ???
🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘🐘
ที่รัก ถ้าใครสักคนเป็นห่วงใครสักคน แล้วอีกคน
บอกว่าไม่ต้องห่วงเขาคงโมโหไม่น้อย "ก็คนเป็น
ห่วง จะบอกให้ไม่ต้องห่วงได้อย่างไร"
แล้วที่บอกว่าเป็นห่วงนั้น เป็นห่วงอย่างไร คน
เราส่วนใหญ่เวลาเป็นห่วงใครสักคน เขามักจะคิด
ในสิ่งที่เขาเป็นห่วง มันเป็นเรื่องธรรมดา
เช่นเวลาลูกวิ่งเล่น พ่อแม่ก็จะกลัวลูกวิ่งหกล้ม
พวกเขาจะตะโกนห้ามไม่ให้ลูกวิ่ง เดี๋ยวจะหกล้ม
ผลที่ได้รับเขาอาจจะได้เห็นลูกล้มหัวแตก
การที่คนเรามีความเป็นห่วง มันคือความวิตก
กังวล ในเรื่องที่ยังไม่มีอยู่จริง สิ่งต่างๆยังไม่ได้
เกิดขึ้นแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงภาพร้ายๆในความ
คิด
แต่น้อยคนนักที่จะตระหนักว่า ภาพร้ายๆที่เรา
สร้างขึ้นมานี้ มันสามารถทำให้ตัวเราหรือคนที่เรา
รักต้องพบกับเหตุการณ์ตามที่เราวาดภาพได้ แล้ว
มันเป็นไปได้อย่างไร
ขอยกตัวอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางคนอาจจะ
เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เช่น ในวันหนึ่งที่
อากาศสดใส บรรยากาศดีและมีความสุข ขณะที่
เรารู้สึกว่ากำลังมีความสุข จู่ๆเราก็เกิดนึกถึงเรื่อง
เก่าๆที่ทำให้เราหงุดหงิดขึ้นมา (คนเราชอบฉาย
หนังเรื่องเก่าๆที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง เรื่องซ้ำๆเดิมๆ
เรื่องที่ทำให้เจ็บๆปวดๆ )
แล้วเราก็จะพูดกับตัวเองอย่างหงุดหงิด "บ้าชิบ...
วันนี้ข้าต้องเจอเรื่องแย่ๆทั้งวันแน่ มาคิดเรื่องแย่ๆ
แต่เช้า" แล้วในวันนั้นทั้งวัน เราก็จะพบแต่เรื่องที่ทำ
ให้เราหงุดหงิดตามมาอีกหลายเรื่อง จนเราเข้านอน
เรื่องแบบนี้ บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องของ
โชค คิดไม่ดีโชคร้ายตลอดวัน แต่ตามกฎของแรง
ดึงดูด เราสร้างความถี่ในระดับแย่ๆ มันจึงดึงดูดสิ่ง
ที่มีความถี่ "แย่ๆ" ในระดับเดียวกันเข้ามาหาเรา
ดังนั้น การเป็นห่วงและการวาดภาพที่แย่ๆว่าคน
ของเราจะต้องพบกับเรื่องแย่ๆ มันจึงเป็นการสร้าง
คลื่นความถี่ที่ดึงดูดสิ่งเดียวกันเข้ามาหาอย่างช่วย
ไม่ได้
มาหาทั้งเราและคนที่เรารัก เพราะคนที่มีความ
รักผูกพันกัน เราอาศัยอยู่ในคลื่นความถี่เดียวกัน
เมื่อเป็นห่วง ก็ควรคิดถึงสิ่งดีๆที่จะมาหาคนที่
เราเป็นห่วง คิดถึงความมีสุขภาพที่ดี ความสุข
ความสำเร็จของเขาและมีความสุขกับภาพความ
สำเร็จของเขา
ไม่ใช่มัวแต่วิตกกังวล และเฝ้ารอดูว่ามันจะมี
เรื่องอะไรที่แย่ๆ (ตามที่เราคิดไปเอง) เกิดขึ้นกับ
เขาในตอนนั้นแล้วก็พูดสำทับว่า "ฉันว่าแล้ว...และ
มันก็เกิดขึ้นมาจริงๆ ไม่ผิดไปจากที่คิดเลยแม้แต่
น้อย"
ชีวิตไม่ต้องรอให้มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น เราคิดให้
ดีได้เสมอ
คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมความสุข ไม่ได้เกิดมา
เพื่อคิดเรื่องทุกข์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น