วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เรื่องสบู่ สบู่


เรื่องสบู่ สบู่
         
            สบู่ก็เหมือนๆกันหมดจริงหรือ?

          สบู่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดร่างกาย จากเอกสารที่บันทึกถึง

กำเนิดของสบู่ สบู่ก้อนแรกนั้นว่ากันว่า มาจากไขมันแพะต้มกับขี้เถ้า โดยในยุคต่อๆมา

สบู่ก็มีการพัฒนาการโดยมีการทำสบู่เป็นอุตสาหกรรม โดยโรงงานทำสบู่แรกๆนั้นเกิดขึ้น

ในยุโรป การทำสบู่เป็นทั้งวิทยาศาสตร์และศิลปะ โดยมีการทำสบู่ในรูปลักษณ์ต่างๆกัน

รวมตลอดถึงการพัฒนาคุณภาพให้สบู่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป โดยการนำส่วนผสม

ที่มีประโยชน์ประกอบในก้อนสบู่
         
            หลักการพื้นฐานของสบู่ เกิดจากการทำปฎิกิริยาระหว่างสารละลายกับน้ำมัน อาจ

จะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์และกลีเซอรีนสำหรับทำความสะอาด ขจัดความสกปรก แต่

ข้อเสียคือ แม้ว่าสบู่โดยทั่วๆไปจะสามารถล้างความมันได้ดีมากก็ตาม  แต่ก็ยังเข้าไป

ทำลายไขมันที่คุ้มกันผิวออกไปด้วย จึงทำให้ผิวแห้งตึง นอกจากนี้ ฤทธิ์ความเป็นด่างของ

สบู่ (สบูู่่มีค่า  pH มากกว่า 7 ) ทำให้ค่า pH บนผิวของเราซึ่งปกติมีค่าประมาณ 5.5  ซึ่ง

มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เปลี่ยนไป และยิ่งใช้สบู่เป็นเวลานานๆยิ่งอาจทำให้ผิวเกิดการระคาย

เคืองอักเสบ และส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบนผิวหนังได้ ดังนั้น ใน

ปัจจุบันนี้ คนจึงหันมาใช้สารชำระล้างชนิดสังเคราะห์ซึ่งสามารถปรับค่า pH ให้ใกล้เคียง

กับค่า pH ของผิวหนังปกติ และทำให้เกิดความระคายเคืองผิวน้อยกว่าสบู่แบบเดิมๆ

สบู่ มีสามแบบดังนี้

            1. สบู่ก้อนทั่วไป จะมีลักษณะเป็นก้อนแข็งใส่สีต่างๆ และมีรูปลักษณะจากบล๊อค

มีปริมาตรที่แตกต่างกันน้อยมาก พูดง่ายๆก็คือ เป็นสบู่ที่ผลิตจากโรงงาน สบู่ลักษณะนี้เป็น

สบู่ที่ทำมาจากเกล็ดสบู่ หรือที่เรียกกันว่า Soap Noodle หรือ Soap Chip นำมาเติมสาร

บำรุงผิว ซึ่งมักเป็นสารเคมี และน้ำหอม ลักษณะของเนื้อสบู่ที่ได้จะมีความแข็ง สามารถ

นำมาปั๊มขึ้นรูปได้ จึงมักมีรูปก้อนสบู่ที่สวยงาม

            2. สบู่ก้อนแบบใส เป็นสบู่ที่ผลิตด้วยกลีเซอรีนผสมกับสารเติมแต่งเช่นสมุนไพร

หรือกลิ่นต่างๆ เนื้อสบู่จะอ่อนนิ่มกว่า และให้ฟองน้อยกว่า

            3. สบู่เหลว เป็นสบู่ที่ผสมน้ำและสีต่างๆกับสารเติมแต่งต่างๆ สบู่เหลวนี้จะใช้เกล็ด

สบู่แบบที่ใช้ทำสบู่ก้อนแข็งมาทำการผลิต แต่ใช้ด่างที่เข้มข้นกว่าสบู่แบบก้อนแข็ง

            สำหรับเกล็ดสบู่ซึ่งเราทราบกันแล้วว่าเกิดจากไขมันพืชและโซเดียมไฮดรอกไซด์

ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ความแตกต่างของสบู่ที่ทำจากเกล็ดสบู่และสบู่ที่ทำจากกลีเซอรีน คือ

สบู่ที่ทำจากเกล็ดสบู่จะไม่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเหมือน        
กลีเซอรีนใส

สบู่ที่ทำจากกลีเซอรีนซึ่ง ที่ผลิตจากการทำปฏิกริยากัน

ระหว่างน้ำมันกับสารละสายด่าง  ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เกิด

กลีเซอรีนธรรมชาติอยู่ในตัวสบู่ และกลีเซอรีนนี้เองที่

เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังสามารถเติมสาร


ธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อเพิ่มคุณค่าในการบำรุงผิวเพิ่มมากขึ้นได้ตามต้องการ  สบู่กลีเซอรีน

เป็นสบู่ที่มีกลีเซอรีนเป็นส่วนประกอบสำคัญ และไขมันจากพืช มีทั้งชนิดใสและขาวขุ่น มี

คุณสมบัติ คือ กลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่

ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อน

โยนต่อผิว ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน

                                                              สำหรับเกล็ดสบู่ซึ่งเราทราบกันแล้วว่าเกิดจาก
โซดาไฟ

      ไขมันพืชหรือไขมันสัตว์และโซเดียมไฮดรอกไซด์

      ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง  สำหรับด่างที่ใช้ทำสบู่นั้น

       มี 2 ชนิด คือ โซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือโซดาไฟ

       (Sodium hydroxide) ใช้สำหรับทำสบู่ก้อน  และ

โปแตสเซียมไฮดรอกไซด์(Potassium hydroxide) ใช้สำหรับทำสบู่เหลว  สำหรับ

โซดาไฟ ที่ใช้เป็นด่างในการทำสบู่นั้น  ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวแต่ผู้ผลิตบาง

รายอาจทำเป็นเม็ดหรือเป็นผงก็ได้ เมื่อเทสารละลายโซดาไฟลงในน้ำมันหรือไขมัน จะ

เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า สะปอนนิฟิเคชัน (Saponification) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส

ไขมันและน้ำมันด้วยเบส เกิดเกลือของไขมัน (สบู่) กับกลีเซอรอล   ซึ่งหลังการทำ

ปฏิกิริยาเสร็จจะไม่มีโซดาไฟหลงเหลืออยู่ในผลิตภัณฑ์สบู่  แต่การใช้โซดาไฟ

โซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือ โปแตสเซียม ไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นสารเคมี  อาจส่งผล

ให้ผิวแห้งตึงเมื่อใช้เป็นระยะเวลานานดังที่กล่าวมาแล้ว

            ลักษณะของสบู่ที่ดีนั้น จะต้องทำความสะอาดได้ดี มีฟองในระดับที่เหมาะสม

มีค่าความเป็นด่างน้อยในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหรือทำลายชั้นไขมันของผิว ไม่มี

กลิ่นหืน  มีกลิ่นหอมที่น่าใช้
         
            การใช้สบู่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำความสะอาด แต่ ในสภาพปัจจุบันการดูแล

ผิวเป็นเรื่องที่จำเป็นยิ่งกว่าการใช้สบู่อะไรก็ได้ ในเมื่อมีการพัฒนาผลิตสบู่ออกมามายมาย

หลายชนิด แล้ววันนี้คุณจะเลือกใช้สบู่อะไร?
       
                                                                        S.Th

ข้อมูลบางส่วนจาก วิกิพีเดีย

🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇🐇


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น