ความอ้วนลงได้แล้วมักประสบ
ปัญหาเรื่องความเหี่ยว เนื่อง
จากผิวที่เคยขยายตัวไว้ใน
ระหว่างที่อ้วนมากๆเมื่อร่างกายลดขนาดลง จึงทำ
ให้เกิดผิวหนังส่วนเกินเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม
ออกจนแฟบ
หากเคยอ้วนมาก ความเหี่ยว เนื้อห้อยย้อยอาจ
มีมากหากว่าลดความอ้วนแบบไม่ถูกวิธี หรือหักโหม
ลดความอ้วนเร็วจนเกินไปมันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ
การลดน้ำหนักให้ดูเฟิร์ม ที่จะต้องปรับพฤติกรรม
การกินอาหารควบคู่ไปกับการเปลี่ยนพฤติกรรม
จากการไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายให้เป็นคนซึ่ง
ไม่รังเกียจที่จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
จากกฎสองนาทีของ David Allen ผู้เขียน
หนังสือ Getting Things Done ซึ่งเป็นหนังสือ
เกี่ยวกับ productivity ที่ดังมากๆในอเมริกาพูด
ไว้ว่า
"ถ้าอะไรใช้เวลาไม่เกินสองนาที ก็ทำมันไปเลย"
เราสามารถนำเอาหลักกฎสองนาทีนี้มาใช้กับ
การเตือนตัวเองให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย
ได้ เช่นเก็บล้างถ้วยชามของเราที่กินไว้ใช้เวลาไม่
ถึงสองนาทีให้ทำทันที เก็บขยะไม่ถึงสองนาทีให้
เก็บทันที แม้บางอย่างที่ใช้เวลามากกว่าสองนาที
ในการทำให้เสร็จ ต่อไปเราก็จะทำได้ เช่น การ
กวาดถูบ้านที่ถึงแม้นว่าจะใช้เวลาเกินกว่าสองนาที
เราก็สามารถจะทำได้ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญ
สิ่งที่เราเก็บสะสมมานานออกไปได้บ้าง
เนื่องจากโดยหลักแล้วแม้เพียงแต่การนั่งอยู่
เฉยๆ ร่างกายก็ยังเผาผลาญเพื่อให้เกิดพลังงาน
ในการดำรงชีพ (ร่างกายเผาผลาญพลังงานใน
ส่วนนี้65% )
แต่การเผาผลาญเพื่อให้พลังงานในการดำรง
ชีพยังไม่เพียงพอที่จะเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่
เราสะสมไว้ในแต่ละวันเนื่องมาจากการกินอาหาร
เกินตัวได้มากพอ
การเคลื่อนไหวอิริยาบทต่างๆสามารถทำให้
ร่างกายเผาผลาญได้มากขึ้น
มารู้กันหน่อยว่า การขยับเขยื้อนร่างกายใน
การทำกิจกรรมต่างๆในระหว่างวัน เราจะสามารถ
เผาผลาญพลังงานไปได้อีกมากน้อยเท่าไหร่
ตัวอย่างเช่น
ถ้าเราเดิน 15 นาที
เราจะเผาผลาญได้ 100
กิโลแคลอรี่
ทำงานบ้าน 1 ชั่วโมง
เผาผลาญได้ 150 ถึง
250 กิโลแคลอรี่
นั่งดูทีวี 1 ชั่วโมง เผาผลาญได้ 80-120
กิโลแคลอรี่
ลงนอนโดยไม่หลับ 1 ชั่วโมง เผาผลาญได้
85 กิโลแคลอรี่
นอนหลับ 1 ชั่วโมง เผาผลาญได้ 75
กิโลแคลอรี่
ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น
ในแต่ละวันเพื่อช่วยเพิ่ม การเผาผลาญให้มาก
ขึ้น และพอใจกับผลการชั่งน้ำหนักทุกๆวันของ
เรา เพราะมันจะบอกเราได้ว่า ในระหว่างวันนั้นๆ
เรากินมากเกินไปหน่อยหรือออกกำลังน้อยไป
นิด
มีความสุขที่จะพยายามปรับปรุงพฤติกรรม
ไปเรื่อยๆ นอกจากนั้น การออกกำลังกายจะ
ช่วยทำให้ร่างกายของเรา"กระชับ" ขึ้น ไม่มี
กล้ามเนื้อหย่อนยาน หรือหากจะมีบ้างก็จะไม่
มากจนน่าเกลียด
กายเพื่อกระชับส่วนต่างๆ
ของร่างกายมีให้เราได้
ศึกษาอยู่มากมายในสื่อ
ต่างๆ ซึ่งเราสามารถจะ
นำมาใช้ ได้ทุกวิธี แต่วิธี
การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือเลือกวิธีที่เหมาะ
กับตัวเราเป็นวิธีที่เราทำได้อย่างมีความสุขและ
เต็มใจที่จะทำ
ที่สำคัญที่สุดจะต้องเป็นวิธีที่เหมาะกับสุขภาพ
ของเราด้วย อย่างเช่นคนเป็นความดันโลหิตสูง
ควรใช้วิธีออกกำลังกายด้วยการเดินแบบไม่หัก
โหม พอให้หัวใจได้เต้นแรงขึ้นหน่อย ก็จะ
สามารถเร่งการเผาผลาญเพื่อเบิร์นไขมันส่วน
เกินได้มากขึ้นอีก
โดยปกติทั่วไปควรออกกำลังกาย
ประมาณวันละ 30 - 45 นาที ในหนึ่งสัปดาห์
ควรออกกำลังกายให้ได้ 3 -5 วัน
แต่สำหรับผู้ที่เริ่มคิดจะปรับเปลี่ยน
พฤติกรรม ทางที่ดีที่สุด คือออกกำลัง
กายได้เท่าไหร่ก็พอใจเพียงเท่านั้นก่อน
หากเห็นว่าน้ำหนักตัวเริ่มที่จะลดลงแล้ว
ก็จะมีกำลังใจที่จะขยับเขยื้อนตัวเพื่อ
ออกกำลังกายได้มากขึ้นเอง
เมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องนี้
ได้แล้ว ก็จะกลายเป็นความเคยชินใน
การที่จะการออกกำลังกาย อย่างน้อยๆ
ก็จะมีความพยายามอยู่บ้างที่จะเบิร์น
เอาไขมันส่วนเกินที่ลืมตัวกินไว้มากมาย
ในหนึ่งวันออกไป
น้ำหนักตัวถึงจะไม่ลดลงแต่ก็จะคงที่
หรือขึ้นไม่มากนักซึ่งหากพิจารณาจาก
สถิติน้ำหนักต่อวันของเรา ก็จะทำให้เรา
สามารถวางแผนจัดการกับการกินอาหาร
ของเราอย่างไรหรือควรจะขยับเขยื้อน
เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น ออกกำลัง
กายให้นานขึ้นเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว
ทำทุกอย่างด้วยความสุขความสบายใจ
การลดน้ำหนักหากไม่กดดันตัวเองจน
เคร่งเครียด ผลที่ได้คือใบหน้าที่สดใส
ขณะที่น้ำหนักเริ่มค่อยๆลดลงอย่างน่าพึง
พอใจ
ทททการออกกำลังกายเราสามารถที่
จะทำเองที่บ้านหรือเราอาจจะพาตัวเอง
ที่มีในที่นั้น ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่
จะลดน้ำหนัก
หากเราไม่มีเวลาหรือไม่อยากที่จะ
เข้าไปฟิตเนส เราอาจใช้เวลาไปเดินออก
กำลังหรือทำกิจกรรมเกี่ยวกับการออก
กำลังกายได้ที่สวนสาธารณะใกล้ๆบ้าน
ในตอนเช้าหรือเย็นแต่ถ้าขี้เกียจจริงๆ
เราก็สามารถที่จะออกกำลังกายแบบ
สบายๆพร้อมๆกับการดูละครเรื่องโปรด
ของเราไปพร้อมๆกันกับการออกกำลัง
กายก็ได้เหมือนกัน
วิธีออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้พื้นที่
มากมาย ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไร และทำ
ได้ภายในบ้านง่ายๆวิธีหนึ่งที่จะแนะนำ
คือ "การแกว่งแขน"
วิธีการแกว่งแขนต้องการพื้นที่เพียง
การยืนกางขาเท่าหัวไหล่และพื้นที่ที่จะ
แกว่งแขนไปมาเท่านั้น การแกว่งแขน
เป็นศาสตร์ในการรักษาสุขภาพอย่าง
หนึ่งของจีน
นอกจากจะให้ผลกับเลือดลมที่เดิน
สะดวกทำให้ต่อมน้ำเหลืองตรงรักแร้
ได้เคลื่อนไหวทำงานดีขึ้นแล้ว การแกว่ง
แขนยังสามารถทำให้ร่างกายของเรา
กระชับลงได้และเห็นผลเป็นที่ประจักษ์
ต่อผู้ที่ปฎิบัติ
การแกว่งแขนที่ถูกวิธี จะต้องกางขา
ประมาณหัวไหล่ แขม่วท้องนิดๆยกก้น
เล็กน้อย ตั้งลำตัวให้ตรง กดนิ้วหัวแม่เท้า
กับพื้น ส้นเท้าให้ติดพื้นในลักษณะที่
ยืนที่มั่นคง ตามองไป
ที่จุดใดจุดหนึ่งที่เบื้อง
หน้า กวักแขนไปด้าน
หลังให้แรงสูงเท่าที่จะ
ทำได้
ตามตำราว่าให้สูงประมาณ 60 องศา
ปล่อยแขน ให้เหวี่ยงมาด้านหน้าให้เบา
ลักษณะให้การเหวี่ยงเป็นไปตามธรรมชาติ
ไม่ต้องออกแรงเหวี่ยงมาด้านหน้า ใช้การ
ออกแรงเหวี่ยงไปด้านหลังเพียงอย่างเดียว
ตำราบอกว่าการ ปล่อยแขนกลับมา
ด้านหน้าให้สูงประมาณ 30 องศา
การแกว่งแขนแขนควรแกว่งให้ได้
ประมาณ 30 นาทีต่อวัน แรกๆอาจจะ
ยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ขอให้ลอง
ยืนแกว่งแขนดูบ้าง แล้วค่อยเพิ่มให้ได้
ตามเป้าหมายอย่างน้อยสามสิบนาที
โดยอาจจะแบ่งออกเป็นเซ็ทเซ็ทละ
สิบนาที หรือตามแต่เราจะต้องการ
หมั่นแกว่งแขนแล้วดูผลสำเร็จอันน่า
พึงพอใจจากการออกกำลังกายเพื่อ
กระชับกล้ามเนื้อ และลดสัดส่วน
ทำควบคู่ไปกับการคุมอาหารเพื่อ
ให้ได้ปริมาณและแคลอรี่ที่เหมาะสม
กับร่างกาย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
เพื่อสุขภาพที่ดี อย่าลืมว่า
" พฤติกรรมเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน "
 |
| อาหารเสริมจำเป็นต่อการลดน้ำหนักหรือไม่ ? |
DeMaman เดอมามอง
สบู่แฮนเมด สบู่ธรรมชาติ
ผลิตจากกลีเซอรีนแท้จากประเทศอังกฤษ เสริมคุณค่าด้วยสุดยอดสมุนไพร
ฟักข้าว ทานาคา และพญายอ ช่วยชลอวัย ต้านริ้วรอยแก่ก่อนวัย
ทำให้ใบหน้าอ่อนนุ่มชุ่มชื่น ลดริ้วรอยหลุมลึกบนใบหน้า ช่วยรักษาสิว เม็ดผดผื่นคัน
ป้องกันรังสียูวีจากแสงแดด สร้างความกระจ่างใสให้กับใบหน้า
สบู่ฟักข้าว ทานาคา พญายอ
จัดจำหน่ายโดย DeMaman เดอมามอง
โทร. 095 - 979 9241 line : 5337j
"เดอมามอง แทนใจแม่"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น